ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่งพนักงานราชการ ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ท30201 หลักภาษาไทย 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ ฯลฯ
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู พนักงานราชการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของพนักงานราชการ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
สภาพการเรียนการสอนภาษาไทยในปัจจุบัน พบว่ามีปัจจัยที่ทำให้การเรียนการสอนภาษาไทยโดยเฉพาะสาระที่ 5 การอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะผู้เรียนขาดทักษะในการอ่าน ปัจจุบันการอ่านหนังสือน้อยลงส่วนใหญ่ผู้เรียนจะเสพติดสื่อโซเชียล ผลตามมาคือผู้เรียนมีปัญหาด้านต่างๆ คือด้านสภาพร่างกาย สภาพจิตใจขาดความอดทน ความใส่ใจในการเรียนลดลงสภาพสติปัญญา สภาพสังคม สภาพอารมณ์ผู้เรียนจะขาดความกระตือรือร้น และทัศนคติของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรายวิชาวรรณคดีที่มีเนื้อหาการอ่านเป็นส่วนใหญ่ ไปในทางที่ไม่พึงประสงค์คือผู้เรียนอ่านแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าอ่านอะไร โดยเฉพาะการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรอง ซึ่งเนื้อหาวิชาการพูดที่ตัดตอนมาให้นักเรียนได้เรียน เป็นตอนๆและเป็นบทประพันธ์ประเภทร้อยกรอง และต้องถอดบทประพันธ์เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้นผู้สอนจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาการอ่านโดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ และออกแบบกิจกรรมเรียนรู้ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้พื้นฐานในการอ่านแบบวิเคราะห์เพื่อจะนำไปต่อยอดในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชา ท30201 การพูด (วิชาเพิ่มเติม) และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป
1.1 นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงตามตัวอย่าง
1.2 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละประมาณ 3-4 คน ฝึกอ่านออกเสียงตัว ร ล คำควบกล้ำ และบทร้อยกรอง (กลอนสุภาพ) ทำนองเสนาะ (S2)
- ครูให้นักเรียนทุกกลุ่มสอบอ่านออกเสียงตัว ร ล คำควบกล้ำ และบทร้อยกรอง (กลอนสุภาพ) ทำนองเสนาะ
2. ขั้นสอน
ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 กลุ่มเพื่อสะดวกในการจัดกิจกรรมและเพื่อให้นักเรียนได้ร่วมงานช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม
2.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์เบื้องต้น
2.2 ครูอธิบายการใช้แบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ เพื่อประการจัดการเรียนรู้เรื่องการพัฒนาการอ่าน ตามขั้นตอนให้นักเรียนฟัง
2.3 นักเรียนศึกษาและครูร่วมกันอภิปราย ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน จากแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ แล้วสรุปความรู้ที่ได้จากการอภิปราย โดยตอบคำถาม และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สอบถามข้อสงสัย (ชั่วโมงที่ 2)
2.4 นักเรียนแต่ละกลุ่ม ทำแบบฝึกหัดที่ 1 – 4 ในแบบฝึกฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์
2.5 นักเรียนในกลุ่มส่งแบบฝึกเพื่อให้ครูตรวจผลงานเพื่อตรวจสอบความรู้ของนักเรียน
2.6 ครูส่งแบบฝึกคืนนักเรียน ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด และให้นักเรียนแก้ไขข้อที่ยังตอบคำถามไม่ถูกต้องให้เข้าใจถูกต้อง
3. ขั้นสรุปและประเมินผล
3. นักเรียนสรุปความรู้จากบทเรียนใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน จากแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ แล้วสรุปความรู้ที่ได้ลงในสมุด
ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาผู้เรียน กำหนดกรอบเนื้อหา เรื่องวรรณคดีและวรรณกรรม กำหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมออกแบบและสร้างนวัตกรรมที่ใช้เป็นสื่อเอกสารเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จัดทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู็ู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษปีที่ 4/9 - 4/13 โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จำนวน 189 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงขึ้น และมีผลการเรียนระดับ 3 ขึ้นไปร้อยละ 70
3.2 เชิงคุณภาพ
ได้นวัตกรรมที่ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
